แพทย์หญิง ดร.อมรา มลิลา

ประวัติโดยย่อ
ความภาคภูมิใจที่สูงสุด
การศึกษา
การทำงานในอาชีพหมอ
อุทิศชีวิตให้แก่การเผยแพร่พระธรรมคา
ชีวิต ณ ปัจจุบัน
รางวัลที่ได้รับ
ประวัติ พญ.อมรา มลิลา
หมออมรา เป็นอดีตกุมารแพทย์ของโรงพยาบาลรามาธิบดี ผู้ได้รับรางวัลสตรีดีเด่นในพระพุทธศาสนา จากองค์การสหประชาชาติในวันสตรีสากลเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๙
วันเดือนปีเกิด 29 กุมภาพันธ์ 2479 อายุ 82 ปี
การศึกษาและการทำงาน
พ.ศ. 2494 มัธยม 6 โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย
พ.ศ. 2496 มัธยม 8 (วิทยาศาสตร์) โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
พ.ศ. 2502 แพทยศาสตรบัณฑิต คณะแพทยศาสตร์และศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยแพทย์
ศาสตร์ (ปัจจุบันเป็นมหาวิทยาลัยมหิดล)
พ.ศ. 2502 แพทย์ฝึกหัดโรงพยาบาลเด็ก
พ.ศ. 2503 แพทย์โทโรงพยาบาลลำปาง กระทรวงสาธารณสุข
พ.ศ. 2504 แพทย์โทโรงพยาบาลเด็ก กระทรวงสาธารณสุข
พ.ศ. 2506 ลาศึกษาต่อ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา
พ.ศ. 2510 Diplomate ofthe American Board of Pediatrics
พ.ศ. 2512 Ph. D. (สาขาสรีรวิทยา) จาก Medical College of Pennsylvania
พ.ศ. 2513 อาจารย์โท แผนกสรีรวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
พ.ศ. 2516 ลาออกจากมหาวิทยาลัยมหิดล
อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยศรี
นครินทรวิโรฒ
พ.ศ. 2518 ปฏิบัติธรรมกับท่านพระอาจารย์สิงห์ทองธมฺมวโรวัดป่าแก้ว จ.สกลนคร และท่านพระอาจารย์พระมหาบัวญาณสัมปันโนวัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
ระหว่างปฏิบัติธรรมได้มีโอกาสดูแลรักษาโยมมารดาของท่านพระอาจารญ์สิงห์ทองซึ่งบวชเป็นแม่ชีจนหายจากอาพาธและอยู่ต่อมาจนสิ้นอายุขัยเมื่ออายุ 98 ปี และดูแลคุณแม่ชีโยมมารดาของพระอาจารย์มหาบัว อายุ 92 ปี ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งจนสิ้นชีวิต
ท่านศาสตราจารย์นายแพทย์อุดมโปษกฤษณะได้กล่าวชมเชยว่า“เป็นแพทย์ตัวอย่างที่ดีมีความสามารถสูงในการทุ่มเทดูแลผู้ป่วยอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการและจริยธรรม”
ในระยะ30ปีที่ผ่านมาได้เผยแพร่พระธรรมคาสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและครูบาอาจารย์สายพระกรรมฐานพร้อมทั้งนามาปฏิบัติในชีวิตประจาวันให้เกิดความร่มเย็นสันติสุขในสังคมได้รับคำรับรองและยกย่องว่าการปฏิบัติและการเผยแพร่คาสอนถูกต้องดีงามตามหลักธรรมของพุทธศาสนา
ได้ช่วยอบรมเจ้าหน้าที่และบุคลากรที่ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายด้วยวิถีแบบพุทธและนำพาผู้ป่วยให้ตายอย่างสงบอุทิศตนทางพุทธศาสนามาโดยตลอดบรรยายธรรมเป็นประจาโดยได้รับเชิญจากสถาบันองค์กรมหาวิทยาลัยวัดโรงเรียนโรงพยาบาลทัณนฑสถานฯลฯทั่วประเทศเช่นคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กระทรวงสาธารณสุข จัดอบรมปฏิบัติธรรม 3-5-7วันแก่สถาบันต่างๆช่วยเหลือชี้แนะบุคคลที่มีปัญหาด้านจิตใจและด้านการปรับตัวเสมอมาชี้แนะแนวทางชีวิตให้บุคคลดำเนินด้วยความถูกต้องดีงามมาโดยตลอด
บรรยายธรรมทางวิทยุกระจายเสียงหลายสถานีเช่นวิทยุศึกษาวิทยุแห่งประเทศไทยวิทยุขนส่งทางบกวิทยุจุฬาเป็นต้นมีหนังสือบรรยายธรรมการปฏิบัติธรรมและสั่งสอนหลักธรรมพิมพ์แจกเป็นธรรมทานเผยแพร่ทั่วประเทศกว่า70
รางวัลที่ได้รับ
พ.ศ. 2543 รางวัลเกียรติคุณเซอร์เวียม (Serviam Award) สำหรับนักเรียนเก่าโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัยในโอกาสครบรอบ 72 ปี ของโรงเรียน
พ.ศ. 2547 ผู้สูงอายุตัวอย่างจากสมาคมคลังปัญญาอาวุโสแห่งประเทศไทย
พ.ศ. 2549 รางวัลสตรีดีเด่นในพระพุทธศาสนาจากองค์การสหประชาชาติในวันสตรีสากล
พ.ศ. 2553 Angela Award จากชมรมศิษย์อุร์สุลินแห่งประเทศไทย
พ.ศ. 2553 Fulbright Thailand’s Hall of Fame Award กลุ่มAll-time Fame จากสมาคมฟูลไบรท์ไทย และมูลนิธิการศึกษาไทยอเมริกัน(ฟูลไบรท์)
พ.ศ. 2553 รางวัลศิษย์เก่าดีเด่นของสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราชในพระบรมราชูปถัมภ์
พ.ศ. 2556 แพทย์สตรีตัวอย่าง
พ.ศ. 2561 รางวัลบุคคลต้นแบบด้านศิลปะ/วัฒนธรรม/ศาสนา ของแพทยสภา (ซึ่งจะรับรางวัล วันที่ 9 ตุลาคม 2561)
ประวัติ พญ.อมรา มลิลา
หมออมรา เป็นอดีตกุมารแพทย์ของโรงพยาบาลรามาธิบดี ผู้ได้รับรางวัลสตรีดีเด่นในพระพุทธศาสนา จากองค์การสหประชาชาติในวันสตรีสากลเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๙
พ.ญ. ดร. อมรา มลิลา ท่านเกิดที่กรุงเทพมหานคร เมื่อปีพ.ศ. 2479 ท่านสำเร็จการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราช มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปีพ.ศ. 2502 และเข้ารับราชการที่กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขระหว่างปี พ.ศ. 2503-2509 ในปีพ.ศ. 2506 ท่านเดินทางไปศึกษาต่อที่รัฐฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพแพทย์จากสมาคมแพทย์อเมริกันในปีพ.ศ.2510 สำเร็จปริญญาเอกทางด้านสรีรวิทยาจากวิทยาลัยการแพทย์แห่งเพนซิลวาเนีย ในปีพ.ศ. 2512 จากนั้น ดร. อมรา มลิลา เดินทางกลับมาประเทศไทยเพื่อเป็นอาจารย์ที่ภาควิชาสรีระวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล ช่วงปี 2513-2516
เหตุการณ์ที่จุดประกายที่ทำให้ พญ.อมรารู้จักธรรมะอีกมุม เกิดขึ้นเมื่อครั้งได้รับทุนไปเรียนปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกา เหตุการณ์ครั้งนั้นเริ่มจากการถูกลองภูมิของเด็กนร.ฝรั่ง ที่คิดว่าคนเอเชียที่นับถือศาสนาพุทธต้องปฏิบัติสมาธิได้ทุกคน
พญ.อมราเล่าว่าเอาตัวรอดมาจากคำถามเชิงท้าทายของเด็กฝรั่งครั้งนั้นด้วยการบอกว่าวันนี้อาจารย์ใหญ่สั่งให้มาเล่าเรื่องประวัติพระพุทธเจ้าอย่างเดียวอาจารย์ใหญ่ไม่ได้อนุญาตให้มาตอบคำถาม เด็กเหล่านี้เข้าใจและนั่งฟัง พญ.อมราเล่าประวัติของพระพุทธเจ้าจนจบ
ความรู้ทางการแพทย์ที่อาจารย์ร่ำเรียนมานับ ๑๐ ปีนำมาประยุกต์เข้ากับหลักธรรมที่อาจารย์ใช้เวลาศึกษายาวนานไม่ต่างกัน ครั้งเมื่อมีการตั้งชมรมพุทธธรรมตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั้งศิริราช รามาฯ รพ.จุฬา เป็นต้น คุณหมออมรา นำความรู้ทางธรรมะที่ตกผลึกกับตนเองไปบรรยายให้ผู้คนในโรงพยาบาล จนต่อมาโรงพยาบาลเหล่านี้เริ่มทำกิจกรรมธรรมะโอสถไปเยียวยาคนไข้ เพราะเห็นว่ายาแก้ปวดทางเคมีมันแค่บรรเทาความเจ็บทางกาย แต่ถ้าใจยังยึดอยู่กับความเจ็บปวดทรมานกับโรคร้าย ในบั้นปลายสุดท้ายของชีวิตก็ตายไม่สงบ
หลักธรรมของพ.ญ. ดร. อมรา คือการปฎิบัติสติปัฏฐาน ท่านยังชี้ให้เห็นกุญแจสำคัญในการตั้งจิตเป็นกุศลและมีสติในชีวิตประจำวันว่าเป็นวิธีน้อมธรรมะเข้ามาสใส่ตน (โยนิโสมนสิการ) และใช้เหตการณ์ไม่ว่าร้ายหรือดีเป็นหินลับปัญญา หากเราสามารถใช้ธรรมะในชีวิตประจำวันได้อย่างนี้ ก็จะมีความสุขในการทำงานในทุกๆขณะ
ผู้จัดทำเว็บไซต์นี้หวังว่า บทความธรรมะของ ดร.อมรา จะเป็นประโยชน์กับทุกๆ ท่านไม่มากก็น้อย
ข้อมูลประวัติหมออมรา
ข้อมูลประวัติหมออมราที่สมบูรณ์ที่สุด อยู่ที่หน้า 222-223 ของ https://alumni.mahidol.ac.th/download/151224222042_4mahidolthayathon.pdf
ประวัติหมออมรา
https://ascannotdo.wordpress.com/2012/03/14/%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%96-%E0%B8%9E%E0%B8%8D-%E0%B8%AD%E0%B8%A1/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น